29/6/59

: มาตรการและแนวทางปฏิบัติในการประหยัดพลังงานไฟฟ้าของสำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ ๑๓ (ชลบุรี)



สำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 13 (ชลบุรี) ได้เข้าร่วมโครงการสำนักงานสีเขียว (Green Office) เพื่อเป็นการส่งเสริมศักยภาพการจัดการทรัพยากรธรรมชาติ พลังงานและสิ่งแวดล้อมในสำนักงาน รองรับการจัดซื้อจัดจ้างที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมของหน่วยงานภาครัฐ เกิดการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าและ  มีประสิทธิภาพ ตลอดจนมีการจัดการสิ่งแวดล้อมที่ดี และเป็นตัวอย่างในการดำเนินการสำนักงานที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
พื่อให้การดำเนินงานโครงการสำนักงานสีเขียว (Green Office) เรื่อง การใช้พลังงานไฟฟ้า ของสำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 13 (ชลบุรี) บรรลุตามวัตถุประสงค์และเป้าหมายอย่างมีประสิทธิภาพ จึงขอ
ยกเลิกประกาศสำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 13 (ชลบุรี) เรื่อง มาตรการและแนวทางปฏิบัติในการลดการใช้พลังงาน และขอประกาศมาตรการและแนวทางปฏิบัติในการประหยัดพลังงานไฟฟ้า ฉบับปรับปรุง ดังนี้
๑.การประหยัดพลังงานไฟฟ้าแสงสว่างภายในห้องทำงาน                                                                              
          ๑.๑ ปิดไฟฟ้าเมื่อพักเที่ยง ๑๒.๐๐ น – ๑๓.๐๐ น. หรือ หลังเลิกใช้งาน
          ๑.๒ ติดตั้งแผงสะท้อนหลอดไฟ
          ๑.๓ เลือกใช้อุปกรณ์แสงสว่างประสิทธิภาพสูง ไม่ว่าจะเป็นหลอดไฟ บัลลาสต์ และโคมไฟ
          ๑.๔ ควบคุมแสงสว่างให้เหมาะสมกับการใช้งาน
          ๑.๕ ลดความสว่างที่เกินความจำเป็น (Over Light Compensation) เช่น บริเวณทางเดินที่ไม่จำเป็นต้องสว่างมาก วิธีลดความสว่างง่ายที่สุด คือ ปลดหลอดไฟออก
          ๑.๖ บำรุงรักษาอุปกรณ์อย่างสม่ำเสมอ ตรวจสอบการทำงานและความสว่าง ทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอทุกๆ ๓-๖ เดือน
          ๑.๗ ใช้แสงธรรมชาติช่วยลดการใช้พลังงานจากแสงไฟ
          ๑.๘ สภาพแวดล้อมภายในและภายนอกอาคาร ทั้งฝาผนัง พื้น เพดาน และเครื่องจักร ควรเลือกใช้                 สีอ่อน เพราะค่าการสะท้อนแสงสูงจะช่วยให้ห้อง หรือบริเวณห้อง หรือบริเวณทำงาน ดูสว่างมากขึ้น
          ๑.๙ การเปิด-ปิดไฟฟ้าในเวลากลางคืนของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ให้เปิดเฉพาะจุดที่จำเป็นและไม่ก่อให้เกิดความไม่ปลอดภัยต่อบุคคลและทรัพย์สินของทางราชการ
๒. การประหยัดพลังงานไฟฟ้าของเครื่องปรับอากาศ
          ๒.๑ ตั้งอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศที่ ๒๕ องศาเซลเซียส
          ๒.๒ ไม่ควรปล่อยให้มีความเย็นรั่วไหลจากห้องที่ติดตั้งเครื่องปรับอากาศ ควรหมั่นตรวจสอบและ    อุดรอยรั่วตามผนัง ฝ้าเพดาน ประตู ช่องแสง
          ๒.๓ ปิดประตูห้องทุกครั้งที่เปิดเครื่องปรับอากาศ หรือติดตั้งและใช้อุปกรณ์ ควบคุมการเปิด-ปิดประตูในห้องที่มีเครื่องปรับอากาศ
          ๒.๔ ทำความสะอาดและดูดฝุ่นบ่อยๆ อาทิตย์ละ 1-2 ครั้ง เพราะหากฝุ่นอุดตันจะทำให้ประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องปรับอากาศลดลง
          ๒.๕ อย่านำความร้อน หรือของที่มีความชื้นเข้าไปไว้ในห้องปรับอากาศ เช่น กาต้มน้ำร้อน กระถางต้นไม้ เครื่องทำความร้อนต่างๆ เครื่องถ่ายเอกสาร เป็นต้น เนื่องจากเมื่อมีการนำความร้อนหรือความชื้นเข้ามาในห้องจะทำให้เครื่องปรับอากาศทำงานมากขึ้น
          ๒.๖ ลดและหลีกเลี่ยงการเก็บเอกสาร หรือวัสดุอื่นใดที่ไม่จำเป็นต้องใช้งานในห้องที่มีเครื่องปรับอากาศ เพื่อลดการสูญเสีย และใช้พลังงาน
          ๒.๗ ติดตั้งฉนวนกันความร้อนโดยรอบห้องที่มีการปรับอากาศ เพื่อลดการสูญเสียพลังงานจากการถ่ายเทความร้อนเข้าภายในอาคาร
          ๒.๘ ใช้มูลี่กันสาดป้องกันแสงแดดส่องกระทบตัวอาคาร และบุฉนวนกันความร้อนตามหลังคาและ    ฝาผนัง เพื่อไม่ให้เครื่องปรับอากาศทำงานหนักเกินไป
          ๒.๙ ควรปลูกต้นไม้รอบๆอาคารสำนักงาน เพื่อช่วยบังแสงแดดด้านข้างหรือเหนือหลังคา เพื่อเครื่องปรับอากาศจะไม่ต้องทำงานหนักเกินไป
          ๒.๑๐ ปลูกพืชคลุมดินเพื่อช่วยลดความร้อน และเพิ่มความชื้นให้กับดินจะทำให้สำนักงานเย็น          ไม่จำเป็นต้องเปิดเครื่องปรับอากาศเย็นจนเกินไป
          ๒.๑๑ ในห้องทำงานเปิดเครื่องปรับอากาศช่วงเช้า เวลา 10.00 น.และควรปิดเครื่องปรับอากาศในช่วงเวลา ๑๒.๐๐ - ๑๓.๐๐ นและปิดเครื่องปรับอากาศช่วงเย็น เวลา ๑๖.๐๐ น. รวมทั้งปิดไฟและอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ไม่จำเป็น
๓. การประหยัดพลังงานไฟฟ้าของเครื่องมือและอุปกรณ์ในสำนักงานอื่นๆ
          ๓.๑ ปิดเครื่องหลังเลิกงานพร้อมทั้งถอดปลั๊ก
          ๓.๒ ปิดจอคอมพิวเตอร์ในเวลาพักเที่ยง
          ๓.๓ ตั้งค่าหน้าจอคอมพิวเตอร์ เป็น energy saving mode
๔. การลดพีคไฟฟ้า (Peak  Load) ตามมาตรการแนวปฏิบัติของกระทรวงพลังงาน ๒๕๕๙ “ปิด ปรับ ลด เปลี่ยน” ดังนี้
           ๔.๑ ปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่จำเป็นในช่วงเวลา ๑๔.๐๐ น. – ๑๕.๐๐ น.
           ๔.๒ ปรับอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศจาก ๒๕ องศาเซลเซียส เป็น ๒๖ องศาเซลเซียส
           ๔.๓ ถอดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าเมื่อไม่ใช้งาน
           ๔.๔ เปลี่ยนไปใช้เครื่องปรับอากาศที่มีค่าที่ใช้วัดประสิทธิภาพในการใช้พลังงานตามฤดูกาล                     (ค่า SEER) สูง หรือใช้หลอด LED แทนการใช้หลอดไฟฟ้าแบบไส้




เผยแพร่โดยส่วนเฝ้าระวังและเตือนภัย
สำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 13 (ชลบุรี)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น